ช่องทางการเก็บเงินที่ง่ายและสะดวก ที่คนส่วนใหญ่คิดถึง คือการออมเงินไว้ในบัญชีธนาคาร ซึ่งนอกจากเราจะได้เก็บเงินแล้ว เรายังได้ดอกเบี้ยจากการฝากเงินอีกด้วย
อย่างไรก็ตามดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ในประเทศไทยนั้นอยู่ในระดับที่ต่ำมาก เทียบไม่ได้เลยกับเงินเฟ้อที่สูง ทำให้การฝากเงิน ในเงินฝากออมทรัพย์ แลดูจะไม่ค่อยคุ้มสักเท่าไหร่
วันนี้เราเลยขอแนะนำให้รู้จักกับ บัญชีเงินฝากดิจิทัล ที่ให้ดอกเบี้ยโดยเฉลี่ย 1.5% สูงกว่าออมทรัพย์โดยทั่วไปถึง 5 เท่า เลยทีเดียวเชียว
โดยบัญชีเงินฝากดิจิทัล นอกจากจะให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าแบบเงินฝากออมทรัพย์แล้ว เราก็ยังคงได้สมุดคู่ฝากเหมือนเดิม เพียงแค่เปลี่ยนรูปแบบเป็นสมุดคู่ฝากแบบดิจิทัล
รวมไปถึงยังสามารถเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชันธนาคารต่างๆได้ในทันที ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปสาขาธนาคาร
เรามาทำความรู้จักกับ บัญชีเงินฝากดิจิทัล ผ่านบทความข้างล่างกันดีกว่าาา….✨👍
- บัญชีเงินฝากดิจิทัล คืออะไร ?
- ข้อควรระวังในการใช้บัญชีเงินฝากดิจิทัล
- เปรียบเทียบดอกเบี้ยและเงื่อนไขบัญชีเงินฝากดิจิทัล
- ควรเก็บเงินไว้ในบัญชีเงินฝากดิจิตัลเท่าไหร่
- กองทุนรวมตลาดเงิน ทางเลือกสำหรับการป้องกันมิจฉาชีพหลอกโอน
บัญชีเงินฝากดิจิทัล คืออะไร ?

บัญชีเงินฝากดิจิทัล หรือ เรียกอีกชื่อว่า บัญชีอีเซฟวิ่ง (E-Saving) เป็นบัญชีออนไลน์ที่เป็นบัญชีออมทรัพย์แบบมีสมุดคู่ฝากแบบดิจิทัล (Digital Book Bank)
โดยบัญชีเงินฝากดิจิทัล เป็นบัญชีออมทรัพย์ที่มีจุดเด่นในเรื่องการให้ดอกเบี้ยที่สูง โดยให้ดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 1.3% – 5.5% (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของทางธนาคาร)
นอกจากนี้ยังสามารถฝาก ถอน โอน ได้อย่างรวดเร็วผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร โดยมีสภาพคล่องไม่ต่างจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์แบบธรรมดา
ข้อควรระวังในการใช้บัญชีเงินฝากดิจิทัล

สำหรับบัญชีเงินฝากไม่ว่าจะเป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือ บัญชีเงินฝากดิจิทัล ล้วนแล้วแต่จะได้รับผลตอบแทนอยู่ในรูปแบบของดอกเบี้ย
ซึ่งทางกรมสรรพากรมีเงื่อนไขว่า ถ้าหากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่เราได้รับ เกิน 20,000 บาท จะโดนภาษีหัก ณ ที่จ่ายไว้ 15% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ
รวมไปถึงมีเงื่อนไขอื่นๆ ที่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยในระดับที่กำหนดไว้
จึงควรทำความเข้าใจเงื่อนไขของแต่ละธนาคารให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจเปิดบัญชี รวมไปถึงทำความเข้าใจขอบเขตจำนวนเงินฝากสูงสุดตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคารอีกด้วย
วันนี้ทางเราเลยจะมาสรุปอัตราดอกเบี้ย พร้อมเงื่อนไขของบัญเงินฝากดิจิตัลของแต่ละธนาคารเป็นตารางให้ดูง่ายกันน…✨👍
เปรียบเทียบดอกเบี้ยและเงื่อนไขบัญชีเงินฝากดิจิทัล
| บัญชีเงินฝาก | จ่ายดอกเบี้ย | เงื่อนไข | อัตราดอกเบี้ย |
|---|---|---|---|
| 1. B-You Max | ทุกเดือน | 9 แสน – 1 ล้าน บาท | 5.55% |
| 2. Dime! Save | มิ.ย. และ ธ.ค. | ไม่เกิน 10,000 บาท | 3% |
| 3. Chill d | ทุกเดือน | 5 หมื่น – 1 แสนบาท | 2.88% |
| 4. ttb ME Save | มิ.ย. และ ธ.ค. | ไม่เกิน 1 แสนบาท* | 2.20% |
| 5. Grow savings | มิ.ย. และ ธ.ค. | ไม่เกิน 5 ล้านบาท** | 2.22% |
| 6. Pro-fit | มิ.ย. และ ธ.ค. | 3 ล้าน – 50 ล้านบาท | 1.75% |
| 7. KKP Savvy | มิ.ย. และ ธ.ค. | 1 ล้าน – 5 ล้านบาท | 1.60% |
| 8. SCB EZ Saving | ทุกเดือน | ไม่เกิน 2 ล้านบาท | 1.50% |
| 9. KT Next Saving | มิ.ย. และ ธ.ค. | ไม่เกิน 2 ล้านบาท | 1.50% |
| 10. BBL e-Saving | มิ.ย. และ ธ.ค. | ไม่เกิน 1 ล้านบาท | 1.50% |
| 11. KS MeeTaeDai | ทุกเดือน | ไม่เกิน 2 ล้านบาท | 1.50% |
| 12. K-eSaving | มิ.ย. และ ธ.ค. | ไม่เกิน 3 แสนบาท | 1.50% |
| 13. TMRW Saving | ทุกเดือน | ไม่เกิน 1 ล้านบาท | 1.30% |
** ฝากไว้ในกระปุก Grow ในเดือนที่ 19 – 24 ของการออมทรัพย์
จากตารางด้านบน จะเห็นว่าบัญชีเงินฝากดิจิตัลส่วนใหญ่ จะมีเงื่อนไขที่ซับซ้อน จึงขอแนะนำบัญชีที่มีเงื่อนไขไม่ซับซ้อนและเป็นธนาคารขนาดใหญ่ 5 ธนาคารดังต่อไปนี้
| ธนาคาร | บัญชีเงินฝาก | จ่ายดอกเบี้ย | เงินฝากสูงสุด | อัตราดอกเบี้ย |
|---|---|---|---|---|
| 1. ไทยพาณิย์ | EZ Saving | ทุกเดือน | 2,000,000 บาท | 1.50% |
| 2. กรุงไทย | Next Saving | มิ.ย. และ ธ.ค. | 2,000,000 บาท | 1.50% |
| 3. กรุงเทพ | e-Saving | มิ.ย. และ ธ.ค. | 1,000,000 บาท | 1.50% |
| 4. กรุงศรี | MeeTaeDai | ทุกเดือน | 2,000,000 บาท | 1.50% |
| 5. กสิกรไทย | eSaving | มิ.ย. และ ธ.ค. | 300,000 บาท | 1.50% |
ควรเก็บเงินไว้ในบัญชีเงินฝากดิจิตัลเท่าไหร่
เมื่อเราพิจารณาตามเงื่อนไขของการเสียภาษี กล่าวคือ กรณีดอกเบี้ยรับรวมทุกบัญชีเกิน 20,000 บาท ก็จะโดนหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%
พิจารณาจากดอกเบี้ย 20,000 บาท ที่อัตราดอกเบี้ย 1.50% แปลงกลับเป็นเงินต้นอยู่ที่ประมาณ 1,333,333 บาท
20,000 / 1.50% = 1,333,333.33
เมื่อรวมกับเผื่อส่วนความปลอดภัย (Margin of Safety) สัก 5% จึงขอแนะนำให้เก็บเงินไว้ในบัญชีเงินฝากดิจิทัลไม่เกิน 1,250,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถในการเข้าถึงง่าย ทำให้มีความเสี่ยงที่จะโดนหลอกโดยมิจฉาชีพได้
โดยบัญชีเงินฝากดิจิทัลมีข้อดีทั้งในเรื่องสภาพคล่อง กับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ อย่างไรก็ตามดอกเบี้ยที่ว่าสูง ก็ยังสูงไม่เท่าผลกำไรจากการลงทุนในกองทุนรวม หรือ ลงทุนในหุ้น
จะเห็นว่าบัญชีเงินฝากดิจิทัล มีข้อดีกว่าสินทรัพย์การลงทุนอื่นๆ ในด้านสภาพคล่องเท่านั้นโดยเป้าหมายทางการเงิน ที่ต้องอาศัยสภาพคล่องที่สูง คือ เงินสำรองฉุกเฉิน
เงินสำรองฉุกเฉิน คือ เงินที่เราเก็บสะสมไว้แยกส่วนออกจากการลงทุน โดยมีวัตถุประสงค์ไว้ช่วยเหลือในยามฉุกเฉิน เกิดเหตุไม่คาดฝัน มีความจำเป็นต้องใช้เงินกะทันหัน
โดยเงินสำรองฉุกเฉินแนะนำให้เก็บเป็นจำนวน 6-12 เดือน ของค่าใช้จ่ายรายเดือน นอกเหนือจากนั้นขอแนะนำให้เก็บเงินอยู่ในรูป กองทุนตลาดเงิน แทนครับบ
กองทุนรวมตลาดเงิน ทางเลือกสำหรับการป้องกันมิจฉาชีพหลอกโอน
กองทุนรวมตลาดเงิน คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในเงินฝาก เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด ได้ผลตอบแทนคล้ายดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ แต่ไม่ต้องเสียภาษี
โดยกองทุนตลาดเงินนั้น เมื่อส่งคำสั่งถอนเงิน จะต้องใช้ระยะเวลาในการถอนเป็นระยะเวลา T+1 หมายความว่า ถอนวันนี้ ได้เงินคืนในวันทำการถัดไป
โดยกองทุนตลาดเงินที่ขอแนะนำคือ KKP S-PLUS
โดยเพื่อนๆ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ด้านล่างได้เลยครับ
ไม่อยากเสี่ยงโดนแฮ็กบัญชีธนาคาร ลองเปลี่ยนมา
ลงทุนใน Money Market Fund กันเถอะ!
ขอให้เพื่อนๆ สนุกกับการเก็บเงินนะครับบบ 🙂


Leave a comment